คำแนะนำหลังเสริมจมูก

  1. ใช้ก้านสำลี(Cotton buds) ชุบน้ำเกลือที่สะอาด  ซับทำความสะอาดแผลเบาๆ โดยไม่ถูแรง   ตั้งแต่หลังผ่าตัดใหม่ๆ  จนถึงวันนัดตัดไหม   โดยไม่ปล่อยให้เกิดสะเก็ดแผลเกรอะกรัง    เพราะจะทำให้แผลหายช้าและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น (โดยเฉพาะใน 2-3 วันแรก หลังผ่าตัด จะมีน้ำเหลืองปนเลือดเก่าๆ ไหลออกจากจมูก   จึงต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ   ยิ่งในช่วง 6 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด  ต้องซับบ่อย ๆ เป็นพิเศษ) กรณีผ่าตัดเสริมจมูกแบบ Open : ใช้ผ้าก๊อสสะอาดที่คลินิกชุบน้ำเกลือหมาดๆ วางบริเวณบาดแผลส่วนหยดน้ำของปลายจมูก เพื่อให้ผ้าก๊อสซับเอาน้ำเหลืองและเลือกเก่าๆ ออก โดยวางไว้ 10-15 นาที แล้วเปลี่ยนผ้าก๊อสใหม่
  2. ให้นอนหงายศีรษะสูงประมาณ 30 องศา หลังผ่าตัด 1 สัปดาห์
    เพื่อลดอาการบวมของแผลและใบหน้า
  3. ประคบเย็นบริเวณข้างๆ จมูกและระหว่างคิ้ว 1 – 2 วันแรกหลังผ่าตัด
    เพื่อลดและป้องกันการบวมช้ำ
  4. รับประทานยาแก้อักเสบตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจนหมด
    เพื่อป้องกันการอักเสบและติดเชื้อ
  5. สำหรับยาลดบวมให้ทานวันรุ่งขึ้นและทานหลังอาหารทันที
    และทานน้ำตาม 2  แก้ว  เนื่องจากยาดังกล่าวอาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  6. งดอาหารหวาน อาหารรสจัด  อาหารเผ็ดร้อน ของหมักดองและแอลกอฮอล์

    6.1. กรณีผ่าตัดแบบปิด(Close) และ Semi Open งดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
    6.2. กรณีผ่าตัดแบบ Open งดอย่างน้อย 1 เดือน

  7. หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำจนถึงวันนัดตัดไหม

  8. งดการออกกำลังกายและเที่ยวกลางคืน 1 เดือน หลังผ่าตัด

  9. งดการนอนคว่ำ, นอนตะแคง, การนวดหน้า 1 เดือนหลังผ่าตัด

    ระวังอย่าให้บริเวณผ่าตัดโดนกระแทก
  10. งดการฉีกยิ้ม หัวเราะบ่อย ๆ และอ้าปากกว้างเพราะจะทำให้แผลปริหรือแยกได้ (ถ้าเสริมจมูแกแบบ Open โครงสร้างจมูกที่ทำไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้)
  11. งดทานอาหารแข็งหรือเหนียว ที่ต้องเคี้ยวบ่อย ๆ  เพราะจะทำให้แผลปริหรือแยกได้เช่นกัน
  12. พลาสเตอร์ที่ติดประคองจมูกไว้ให้แกะออกเบาๆได้ 3  วันหลังผ่าตัดในกรณีผ่าตัดแบบปิดและ Semi Open
  13. ในกรณีที่ใส่เฝือกหลังการผ่าตัด จะต้องใส่เฝือกดามจมูกไว้ อย่างน้อย 7 วัน (ยกเว้นการสริมแบบมีการตอกฐานใส่เผือกอย่างน้อย 14 วัน)
  14. ไหมที่เย็บแผลในรูจมูกจะหลุดและละลายเองภายใน 2 สัปดาห์
    ส่วนไหมที่เย็บภายนอกและแผลตัดปีกจมูก  เป็นไหมไม่ละลาย  ทางคลินิกฯ จะนัดมาตัดไหมหลังผ่าตัด 7-10 วัน  (ห้ามดึงหรือถอนออกโดยเด็ดขาด)
  15. กรณี มีแผลจากการผ่าตัดเอากระดูกอ่อนหลังหูมาใช้ ทางคลินิกฯ จะนัดมาเปิดแผลหลังผ่าตัด 3 วัน (หลังจากเปิดแผลให้ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือสะอาด แล้วทาด้วยขี้ผึ้งยาบางๆ เช้า-เย็น จนถึงวันตัดไหม)
  16. งดใส่แว่นตา 1 เดือน
  17. งดทานวิตามินบำรุงและยาที่มีผลต่อการทำงานของเกล็ดเลือดได้แก่ Fish Oil , Vitamin E C , Grape Seed , Green Tea , สารสกัดจากแปะก๊วย , กระเทียมได้ ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด 2 สัปดาห์ (ยกเว้นคอลลาเจนบริสุทธิ์ เช่น Colla Pure และ Surtamin ลดบวม)
  18. ต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการผ่าตัดตามวัน/เวลาที่ทางคลินิกฯ นัดหมายอย่างเคร่งครัด
  19. ในกรณี ที่เป็นหวัด น้ำมูกไหล หลังการผ่าตัดต้องรีบแจ้งให้คลินิกฯ ทราบทันทีเพราะถ้าไม่รีบรักษา อาจชักนำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงได้
  20. กรณีมีแผลจากการผ่าตัดเอากระดูกอ่อนหลังหู ให้สระผมได้หลัง 3 วัน (แนะนำให้สระที่ร้าน ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำ)
  21. บริเวณผ่าตัดจะบวมมากในวันที่ 2 – 4 หลังผ่าตัด ไม่ต้องตกใจอาการบวมจะค่อยๆลดลงเรื่อย ๆ ใน 1 สัปดาห์ กรณีผ่าตัดแบบปิด Close และ Semi Open รูปทรงจมูกจะเข้ารูปประมาณ 60-70% ใน 1 เดือน และเข้ารูปเกือบ 100% ประมาณ 3-6 เดือน ส่วนกรณีเสริมจมูกแบบ Open รูปทรงจมูกจะยุบเข้ารูปประมาณ 50-60 % ใน 1 เดือนและจะเข้ารูปเกือบ 100% ประมาณ 6 เดือนขึ้นไปถึง 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ
    • สภาพผิวหนังของคนไข้ เช่น คนที่เป็นสิวง่าย ผิวมัน รูขุมขนกว้าง การยุบตัวจะช้าลง
    • เป็นเคสเสริมใหม่ หรือเคสแก้ เพราะเคสผ่าตัดที่เป็นเคสแก้ การยุบบวมก็จะช้ากว่าเคสเสริมใหม่
    • พฤติกรรมและการใช้ชีวิต เช่น คนที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ นอนดึก พักผ่อนน้อย การยุบบวมก็จะช้าลง
    • โรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้โพรงจมูกอักเสบ หรือไซนัสเรื้อรัง การยุบบวมก็จะช้าลง

คำแนะนำเกี่ยวกับการหายของแผลและการฟื้นฟูของแผลผ่าตัด

  1. ตัดไหม 7 วัน แต่บางคนแผลอาจจะหายช้า จากสภาพผิวของแต่ละคน เช่น ผิวหนา ผิวมัน อาจตะดไหมที่ 10-14 วัน
  2. แผลบริเวณผ่าตัดจะบวมเต็มที่ในวันที่ 3 และค่อยๆ ยุบลง
    • 7 – 10  วัน พอที่จะไปวัดไปวาได้
    • 1  เดือน แผลจะเข้าที่ประมาณ 70 %
    • 3  เดือน แผลจะเข้าที่ประมาณ 90 %
    • 6  เดือน – 1 ปี  แผลจะเข้าที่เกือบ 100 %  ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน   ขนาดแผลผ่าตัดและสภาวะการขัดขวางการหายของแผล (สูบบุหรี่ , ขาดสารอาหาร , โลหิตจาง , โรคเรื้อรังและภูมิคุ้มกันของร่างกาย)

คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังตัดไหม

  1. ให้ทาแผลด้วยขี้ผึ้งยาบาง ๆ เช้า – เย็น ต่อเนื่อง  1  สัปดาห์
  2. แผลที่หายใหม่โดยปกติจะมีอาการคันบ่อย ๆ  ห้ามแกะ เกา โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้แผลผ่าตัดแยกกันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นและติดเชื้อซ้ำซ้อนได้    แต่ถ้าคันมากให้แก้โดยทาขึ้ผึ้งยาที่คลินิคจัดให้แทน
  3. ห้ามให้ยาทาแผลเป็นที่คลินิกไม่ได้โดยแนะนำเด็ดขาด
  4. ถ้าต้องการใช้ยาทาครีมหรือเจลสำหรับป้องแผลเป็นให้เริ่มใช้หลังตัดไหม  7  วัน หรือตามดุลยพินิจของแพทย์ วิธีการทาห้ามใจร้อย ให้ทาแผลบางๆ วันละ 1 ครั้ง สัก 5 วัน หากไม่มีการระคายเคืองหรือแดงคันให้ทาบางๆ วันละ 2 ครั้ง ไปเรื่อยๆ จนกว่าแผลจะหาย

ข้อควรระวัง

  1. ระวังไม่ให้เข้าปาก (เมื่อทายาแล้ว ควรล้างมือทุกครั้ง)
  2. หลีกเลี่ยงการสำผัสกับกระจกตา เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเยื้อยุบตาอักเสธได้

กรณีฉุกเฉิน / นอกเวลาทำการ

คุณสามารถโทร. 089 130 5448 หรือ 098 251 0413 ได้เลย  เรามีผู้เชี่ยวชาญค่อยดูแลคุณเสมอครับ

คุณสามารถแชท หรือ โทร. 089 130 5448 หรือ 098 251 0413 ได้เลย     เรามีผู้เชี่ยวชาญค่อยดูแลคุณเสมอ