ภาวะสันจมูกบางใสจากซิลิโคนเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน แต่คนไข้ส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสนใจเหมือนในภาวะปลายจมูกตึงบาง ภาวะสันจมูกตึงบางจากซิลิโคนนี้ สามารถก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ที่แก้ไขได้ยาก หากทิ้งไว้นานเกินไป
สาเหตุของการเกิดสันจมูกตึงและบาง
1.เสริมความหนาซิลิโคนช่วงสันจมูกเกินความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อสันจมูก
การเสริมความหนาซิลิโคนช่วงสันจมูกที่เกินความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อสันจมูก ทำให้เกิดความตึงของผิวหนังบริเวณสันจมูกมากเกินไป จนเกิดภาวะผิวหนังบางบริเวณนั้นตามมา
2.เกิดจากเสริมซิลิโคนในชั้นตื้นเกินไป โดยปกติจะเสริมใต้ชั้นเยื่อหุ้มกระดูก
ทำให้ผิวหนังบริเวณสันจมูกที่คลุมซิลิโคนมีความบางกว่าปกติ จนเกิดผิวหนังบริเวณนั้นดูบาง มองเห็นซิลิโคนชัด มักเกิดพร้อมภาวะซิลิโคนลอยขยับไปมา
3.ผิวหนังของคนไข้บริเวณสันจมูกบาง ทำให้เกิดความตึงได้ง่ายหลังเสริมซิลิโคน
ทำให้ผิวหนังบริเวณสันจมูกที่คลุมซิลิโคนมีความบางกว่าปกติ จนเกิดผิวหนังบริเวณนั้นดูบาง มองเห็นซิลิโคนชัด มักเกิดพร้อมภาวะซิลิโคนลอยขยับไปมา
4.ผิวหนังบริเวณสันจมูกบางลงจากการถูกทำลาย เนื่องจากการอักเสบจากสิว หรือมีภาวะติดเชื้อในจมูก
5.คนไข้เคยฉีดฟิลเลอร์หรือซิลิโคนเหลวมา แล้วทำการขูดออกและเสริมจมูกด้วยซิลิโคน
ต้องแก้จมูกไหมหากเกิดภาวะซิลิโคนสันจมูกตึงบาง ?
จำเป็นต้องแก้ไขทุกเคสนะครับ เพียงแต่ความเร่งด่วนในการแก้ไขแตกต่างกัน ในเคสที่สันจมูกตึงบางมากหรือมีภาวะติดเชื้อร่วมด้วย จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากปล่อยไว้จนเกิดซิลิโคนทะลุบริเวณสันจมูก การแก้ไขจะทำได้ยากมาก
การแก้ไขภาวะสันจมูกบาง
สำหรับการแก้ไขภาวะสันจมูกบางนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถแก้ไขโดยเทคนิคใช้ซิลิโคนปกติได้เพียงพอ เนื่องจากยังสามารถกลับมาสู่ภาวะเดิมได้อีกครั้ง เรามาดูแนวทางการแก้ไขในแต่ละสาเหตุกันนนะครับ
1. สาเหตุจากการเสริมซิลิโคนหนาเกินไป ( Overside silicone implant)
สำหรับสาเหตุนี้การแก้ไขอาจใช้การลดขนาดซิลิโคนลง แต่ก็ยังอาจกลับมาเกิดซ้ำได้ นอกจากนี้การเลือกใช้ซิลิโคนเนื้อนิ่มขึ้นอาจไม่ค่อยได้ประโยชน์ในการแก้ไข ในกรณีเคสที่สันจมูกมีความตึงบางมาก ควรแก้ไขโดยการเสริมวัสดุจากเนื้อเยื่อตนเอง เช่น เยื่อไขมัน กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นต้น
2. สาเหตุจากการเสริมซิลิโคนในชั้นตื้นเกินไป
การแก้ไขนั้นอาจเลือกใช้การเสริมเทคซิลิโคนแบบเดิมได้ ถ้าผิวหนังบริเวณสันจมูกยังไม่บางมาก โดยซิลิโคนที่เสริมเข้าไปใหม่ ควรเสริมในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก อย่างไรก็ตามหากผิวหนังที่สันจมูกบางมาก ควรแก้ไขจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นแก้ไขโครงสร้างและใช้วัสดุเนื้อเยื่อตนเองแทนในการเสริม (No silicone reconstructive rhinoplasty)
3. สาเหตุจากผิวหนังบริเวณสันจมูกบาง (Thin skin soft tissue envelope)
สำหรับสาเหตุนี้ไม่ควรใช้ซิลิโคนในการแก้ไข จำเป็นต้องใช้การเสริมจมูกด้วยเทคนิคโอเพ่นแก้ไขโครงสร้างและใช้วัสดุเนื้อเยื่อตนเองแทนในการเสริม (No silicone reconstructive rhinoplasty) เป็นหลัก นอกจากนี้ยังไม่ควรร้อยไหมจมูกหรือฉีดฟิลเลอร์(Filler)จมูก เนื่องจากอาจเกิดปัญหาเรื่องชั้นผิวหนังบริเวณสันจมูกไม่เรียบ มีการอักเสบตามมาได้
4. สาเหตุจากผิวหนังบริเวณสันจมูกมีการอักเสบจากสิวหัวหนองเรื้อรัง หรือติดเชื้อ
ในกรณีนี้การแก้ไขควรถอดซิลิโคนออกทันที และได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม รอให้การติดเชื้อหายดี จึงพิจารณาการแก้ไขจมูกที่เหมาะสมต่อไป
5. สาเหตุจากการขูดฟิลเลอร์หรือซิลิโคนเหลวที่จมูก
สำหรับสาเหตุนี้การแก้ไขไม่ควรใช้เทคนิคซิลิโคนเสริมจมูก แต่ควรใช้วัสดุการเสริมจมูกที่มาจากเนื้อเยื่อตนเอง(Autologous graft) เช่น เยื่อไขมัน หรือกระดูกซี่โครงเสริมจมูก หากใช้ซิลิโคนเสริมมักเกิดปัญหาผิวหนังสันจมูกบาง เพิ่มอัตราการติดเชื้อ มีปัญหาสันจมูกบวมๆยุบๆภายหลัง หรืออาจรุนแรงถึงขั้นซิลิโคนทะลุที่สันจมูก
จะเห็นได้ว่าปัญหาผิวหนังสันจมูกบาง ไม่ใช่ปัญหาเล็ก หากใครมีปัญหานี้อยู่ควรรีบปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูกโดยตรง เพื่อประเมิณถึงสาเหตุและเลือกเทคนิคในการแก้ไขอย่างถูกต้องนะครับ