เทคนิคการเปิดแผลเวลาเสริมจมูก หลัก ๆ จะมีอยู่ 3 แบบ คือ
- การเปิดแผลแบบปิด (Close Technique)
- การเปิดแผลแบบกึ่งปิดกึ่งเปิด (Semi-Open Technique)
- การเปิดแผลแบบเปิด (Open Technique)
1.การเปิดแผลแบบปิด (Close Technique)
คือ การเปิดแผลในรูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง
ข้อดี
- เป็นการเสริมจมูกที่ง่ายและสะดวกกว่าวิธีอื่น ๆ
- บวมช้ำน้อย จึงใช้เวลาพักฟื้นน้อย
ข้อเสีย
- มีโอกาสเบี้ยวสูงกว่าวิธีอื่น
- มีโอกาสที่รูจมูกจะไม่เท่ากันมากกว่าวิธีอื่น เนื่องจากการหดตัวของแผลผ่าตัดที่มีอยู่ข้างเดียว และมุมมองการมองเห็นบริเวณผ่าตัด (Surgical Field) ของแพทย์น้อยกว่าวิธีอื่น ๆ
- ไม่เหมาะสำหรับเคสจมูกสั้นและงานแก้
2. การเปิดแผลแบบกึ่งปิดกึ่งเปิด (Semi-Open Technique)
คือ การเปิดแผลในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง
ข้อดี
- โอกาสเบี้ยวและรูจมูกไม่เท่ากันน้อยลง
- มีโอกาสในการแก้ไขโครงสร้างหรือพื้นฐานจมูกเดิมที่มีปัญหาได้ดีกว่าเทคนิคแบบปิด
- มุมมองการมองเห็นบริเวณผ่าตัด (Surgical Field) ของแพทย์มากกว่าการเปิดแผลแบบปิด
ข้อเสีย
- ใช้เวลาในการผ่าตัดนานขึ้น
- แก้ไขปัญหาเหล่านี้ ได้ไม่สมบูรณ์เท่ากับเทคนิคแบบเปิด (Open Technique)
- จมูกสั้น
- จมูกคด
- ปลายจมูกใหญ่
- รูจมูกไม่เท่ากัน
3.การเปิดแผลแบบเปิด (Open Technique)
คือ เปิดแผลด้านนอกจมูกบริเวณหยดน้ำร่วมกับการเปิดแผลแบบ Semi-Open ทำให้เห็นโครงสร้างจมูกชัดเจนกว่าเทคนิค Close และ Semi-Open แพทย์จึงสามารถแก้ปัญหาโครงสร้างของจมูกเดิมได้ดีและละเอียดกว่าทุกเทคนิค (Open Nose Reconstruction / Structural Rhinoplasty)
ข้อดี
- มุมมองการมองเห็นบริเวณผ่าตัด (Surgical Field) ของแพทย์ดีที่สุด เมื่อเทียบกับเทคนิคที่กล่าวมาข้างต้น
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดกว่าเทคนิคอื่น ๆ (Fine Surgery) โดยเฉพาะบริเวณปลายจมูก (Tip) และงานแก้ (Revision Rhinoplasty)
- เหมาะสำหรับการตอกฐานจมูก 2 แนว (Median Oblique + Lateral Osteotomy) ในกรณีฐานจมูกกว้างมาก ซึ่งพบได้บ่อย ๆ
- เหมาะสำหรับการต่อแกนจมูกให้ยาวขึ้นในกรณีที่จมูกเดิมสั้น (Short Nose)
- มีโอกาสในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างของจมูกเดิมได้ดีและละเอียดกว่าทุกเทคนิค (Open Nose Reconstruction / Structural Rhinoplasty)
ข้อเสีย
- ใช้เวลาผ่าตัดนานขึ้น
- ราคาจะสูงกว่าวิธีอื่น ๆ