เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

สวัสดีครับ ผมหมอกรและทีมแพทย์นะครับ  พบกันอีกเช่นเคยกับสาระดี ๆ เกี่ยวกับถุงใต้ตาเจ้าปัญหา   และคุณสามารถติดตามแบบคลิปได้ที่ช่อง Dr.Gorn Aesthetique Channel ของเรานะครับ 

คราวที่แล้วหมอได้อธิบายถึงปัญหาของถุงใต้ตา (Eye Bags) สาเหตุของการเกิดถุงใต้ตาไปแล้ว   ตอนนี้ทุกคนก็คงอยากจะทราบวิธีการแก้ไขปัญหาหรือว่าบอกลาถุงใต้ตากันแล้วนะครับ  สำหรับวิธีแก้ไขถุงใต้ตาจะแบ่งออกเป็น  2  วิธีหลัก ๆ คือ

1.Camouflage Filling

Camouflage Filling หรือการฉีดสารเติมเต็มบริเวณรอบ ๆ ถุงใต้ตากลบให้แลดูเรียบเนียน
วิธีนี้ เป็นวิธีที่เราไม่ได้ไปยุ่งกับถุงใต้ตาเลย   เพียงแต่เราฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณใต้ หรือรอบ ๆ ถุงใต้ตานะครับ เพื่อให้แลดูเรียบเนียนขึ้นนะครับ

ถุงใต้ตาเจ้าปัญหา ? อยากแก้แต่กลัวไม่จบ ต้องอ่านก่อน !!!

โดยสารที่ทางการแพทย์เราใช้ฉีด จะมี  2  ชนิดนะครับที่นิยม

ฟิลเลอร์ (Filler) - ที่เรียกว่า Hyaluron

ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ทางการแพทย์นะครับ   เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสะดวก ไม่ต้องการพักฟื้น และยอมรับสารสังเคราะห์ทางการแพทย์ได้  

และก็คำถามที่คนไข้ถามหมอมากเลยนะ ว่าคุณหมอฉีดแล้ว เนี่ยจะอยู่ได้นานแค่ไหน อันนี้หมอก็จะตอบไปเลยนะครับว่า ขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลนะครับ และก็เทคโนโลยีในการผลิตของแต่ละบริษัท แต่ละยี่ห้อนะครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้างนะครับ 

โดยปกติ Filler หรือว่า Hyaluron ที่มีขนาดเล็ก ก็จะดูเรียบเนียนนะครับ แต่ก็จะอยู่ได้สั้นนะ อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือนนะครับ แต่ถ้าเกิดว่าเป็นโมเลกุลที่ขนาดใหญ่ ก็จะอยู่ได้นานขึ้น แต่ยังไงก็ตามถ้าเป็นขนาดใหญ่อาจจะทำให้ดูเป็นก้อนมากขึ้น 

ส่วนในกรณีที่คนที่ไม่ชอบของปลอมนะ ชอบธรรมชาติชอบใช้ของตัวเองนะ ที่นิยมมากเลยคือการเติมไขมัน

ไขมันตัวเอง (Autologous Fat Graft)

สำหรับคนที่ชอบสารธรรมชาติและของตัวเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องสิ่งแปลกปลอม ซึ่งบริเวณใต้ตาส่วนใหญ่แล้ว แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะเลือกไขมันที่เตรียมแบบพิเศษ โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า Nano Fat Graft โดยแพทย์จะใช้การดูดไขมันนบริเวณที่มีเซลล์มาก อย่างเช่น  บริเวณท้องน้อย ต้นขา หรือว่า ขาด้านใน เป็นต้น  มาผ่านกระบวนการพิเศษเพื่อทำให้โมเลกุลมันเล็กลง เพื่อให้ได้เซลล์ที่มากขึ้น ก็จะได้ผลดีที่มากขึ้นและการฉีดเรียบเนียนมากกว่าเทคนิคปกติ 

สิ่งที่หมอชอบสำหรับการเติมไขมันหรือว่าฉีดไขมัน ก็คือ มีโอกาสอยู่ได้ตลอดไปนะ ถึงแม้ว่าบางส่วนจะตายไปบ้างนะครับ เนื่องจากถ้าไขมันที่เติมเข้าไปสามารถเกิดการ Take Graft อย่างสมบูรณ์ หรือการที่บริเวณที่เติมไขมันใบหน้าเรามีการสร้างเส้นเลือดใหม่ เข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ไขมันได้อย่างสมบูรณ์ โอกาสที่เซลล์ไขมันจะแข็งแรงและติดอยู่ตลอดก็จะมีสูงนะครับ 

และที่สำคัญคือเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบของปลอมหรือสารสังเคราะห์ ชอบการฉีดที่เป็นธรรมชาตินะครับ

ถุงใต้ตาเจ้าปัญหา ? อยากแก้แต่กลัวไม่จบ ต้องอ่านก่อน !!!
ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์และการเติมไขมันของตัวเอง

2.Eyebags Surgery

Eyebags Surgery การผ่าตัดที่ถุงใต้ตาโดยตรง   วิธีที่ 2 นี้เป็นวิธีการผ่าตัดนั่นเอง วิธีนี้หมอจะต้องเข้าไปผ่าตัดถุงใต้ตาโดยตรงนะครับ โดยปกติแล้วจะมีวิธีการผ่าตัดอยู่ 2 วิธี นะครับตามความเหมาะสมของคนไข้แต่ละรายนะครับ

การตัดไขมันออก

วิธีแรกเลย ตรงไปตรงมาเลยนะครับ ถุงใต้ตาที่ใหญ่มากเกินไป หมอก็จะตัดออก (Intraorbifat Removal Surgery)

การผ่าตัดถุงใต้ตาวิธีที่ 1 การตัดไขมันออก

การย้ายไขมัน

ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีที่นิยมมากขึ้นนะครับและเหมาะสำหรับคนที่มีกระดูกแก้มเนี่ย ยุบตัวลงไปนะครับ ก็คือ วิธีการที่หมอย้ายเอาไขมันถุงใต้ตามาวางบนกระดูกขอบตาล่างนะครับ(Intraorbifat transposition Surgery) วิธีนี้นะ นอกจากว่าหมอจะแก้ปัญหาเรื่องถุงใต้ตาได้แล้ว ยังสามารถที่จะแก้ปัญหาร่องใต้ตาที่ดูโบ๋ลึกได้อีกด้วยนะครับ

การผ่าตัดถุงใต้ตาวิธีที่ 2 การย้ายไขมัน

ทีนี้ทุกคนก็คงอยากทราบนะครับว่า เวลาหมอผ่าตัดถุงใต้ตาเนี่ย หมอเปิดแผลตรงไหน ?

สำหรับเทคนิคการเปิดแผลในการผ่าตัดถุงใต้ตา (Surgical Approach Methods)นั้น จะมี 2 วิธีนะครับ

ผ่านแผลด้านใน (Subconjunctival lower blebpharoplasty)

ผ่านแผลด้านใน   ทำให้ไม่เห็นรอยแผลด้านนอก เหมาะสำหรับการผ่าตัดที่ถุงใต้ตาอย่างเดียว    เหมาะสำหรับในกรณีที่คนไข้ต้องการกำจัดหรือบอกลาแค่ไขมันที่ทำให้เกิดถุงใต้ตานะครับ   โดยหมอก็จะผ่าตัดเอาไขมันใต้ตาส่วนเกินออกผ่านแผลด้านในเปลือกตาล่างนะครับ โดยที่ไม่มีแผลภายนอกให้เห็น

ถุงใต้ตาเจ้าปัญหา ? อยากแก้แต่กลัวไม่จบ ต้องอ่านก่อน !!!

ผ่านแผลด้านนอก (Subciliary lower blebpharoplasty)

ผ่านแผลด้านนอก (Subciliary lower blebpharoplasty) เทคนิคแผลแบบนี้แพทย์มักเลือกในคนที่ใต้ตามีหนังส่วนเกิน หรือมีรอยย่นใต้ตาค่อนข้างเยอะ หรือในเคสที่ต้องการที่จะผ่าตัดดึงร่องแก้มร่วมด้วยนะครับ 

ในกรณีแบบนี้หมอจำเป็นจะต้องผ่าตัดจากแผลภายนอกนะ โดยปกติแผลจะอยู่บริเวณใต้ตานะครับห่างจากขอบตาล่าง ประมาน 2 มิลลิเมตร ซึ่งทุกคนไม่กังวลเรื่องรอยแผล เนื่องจากโดยปกติแล้วแผลจะค่อยๆหายไปในที่สุด

ถุงใต้ตาเจ้าปัญหา ? อยากแก้แต่กลัวไม่จบ ต้องอ่านก่อน !!!

อ่านมาถึงตรงนี้  ก็คงจะเข้าใจแล้วนะครับ ในเรื่องของถุงใต้ตาว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แล้วก็หมอมีวิธีการจะเลือกว่าจะแก้ไขแบบไหน 

สำหรับคนที่สนใจ  ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ   เพื่อที่จะประเมินและก็เลือกวิธีการในการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม และก็ปลอดภัย ด้วยนะครับ