ต้องยอมรับนะครับว่าปัจจุบันคนให้ความสนใจกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดึงคอมากขึ้นกว่าในอดีต แต่เนื่องจากการผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอนั้นถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจผ่าตัดหมอจึงแนะนำให้ทุกท่าน ตรวจเช็คความพร้อมในการผ่าตัดกันก่อนนะครับ มาดูและเช็คไปพร้อมกันใครที่เช็คแล้วมีภาวะความเสี่ยง 1 ใน 8 ข้อที่หมอจะกล่าวนี้ ยังไม่แนะนำให้ผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดึงคอนะครับ (Contraindication for Face & Neck Lift Surgery) ควรจะรักษา หรือปรับลดความเสี่ยงดังกล่าวก่อนผ่าตัดจะดีที่สุดครับ เช็คลิสต์ 8 ข้อ ถ้ามีเพียง 1 ข้อ อย่าพึ่งผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ มีดังนี้
ข้อ 1 ผู้ที่มีภาวะทางอายุรกรรมที่ยังควบคุมไม่ได้บางอย่าง (Uncontrolled medical conditions) เช่น
1. ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
โดยปกติควรที่จะควบคุมให้ความดันอยู่ในระดับ ต่ำกว่า 160/95 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ในกรณีที่ Diastolic pressure (ตัวล่าง) ไม่เกิน 110 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) อาจจะพิจารณาผ่าตัด แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งระหว่างการผ่าตัดได้ และช่วงพักฟื้น แต่ถ้าเกิน 110 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ควรเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อน
2. โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เนื่องจากโรคเบาหวานมีผลต่อการผ่าตัด ดังนี้
- แผลผ่าตัดหายช้าลง
- ติดเชื้อที่แผลผ่าตัดได้ง่าย
- เกิดภาวะฉุกเฉินได้ เช่น Diabetic ketoacidosis หรือภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด เป็นต้น
- ระดับน้ำตาลและเกลือแร่ในเลือดมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มีการเพิ่มขึ้นมาก หรือลดลงมาก อาจกระทบต่อการทำงานของระบบหลอดเลือดและหัวใจได้
โดยปกติต้องควบคุมให้ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารต่ำกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และระดับน้ำตาลในเม็ดเลือดแดง (HbA1C) ควรต่ำ 8 % นะครับ ค่าระดับนี้จึงจะเหมาะสมและพร้อมกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดึงคอครับ
3. ภาวะอื่นๆ ในโรคต่อมไร้ท่อ , โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไต โรคระบบประสาท โรคกล้ามเนื้อและข้อต่อ ตลอดจนภาวะภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง (Autoimmune disease) เป็นต้น
ข้อ 2 ผู้ป่วยที่อยู่ในระหว่างการรักษาด้วย เคมีบำบัด และรังสีรักษา (Chemotherapy & Radiotherapy)
ข้อ 3 การสูบบุหรี่
เนื่องจากการสูบบุหรี่ (Smoking) โดยเฉพาะสารนิโคติน (Nicotine) มีผลต่อการหายของแผลและมีผลเสียต่อระบบการทำงานของระบบการเดินหายใจ แน่นอนว่าทำให้มีผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลระหว่างผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ แบบดมยาสลบ และการพักฟื้นหลังการผ่าตัดดมยาสลบ โดยทั่วไปจึงแนะนำให้หยุดสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัดแบบดมยาสลบ 2 เดือน ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด แต่ถ้าเคสตัดสินใจผ่าตัดแบบใช้ยาชาเฉพาะที่ หมออาจจะอนุโลมให้หยุดก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์ได้ครับ แต่หลังผ่าตัดจำเป็นต้องหยุดนาน 2 เดือนเท่าเดิมนะครับ
ข้อ 4 ผู้มีที่ภาวะความผิดปกติของเส้นใยผิวหนังชั้นหนังแท้ ที่มีความยืดหยุ่นมากผิดปกติ
อย่างโรค Ehler – Danlos Syndrome ภาวะดังกล่าว จะทำหัตการดึงหน้า ดึงคอด้วยการร้อยไหม ยิงเลเซอร์ หรือเครื่องมือทางการแพทย์แค่ไหนก็ตาม ก็จะไม่ได้ผลเช่นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดึงคอ หากต้องการยกกระชับจำเป้นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก่อนตัดสินใจนะครับ
ข้อ 5 ภาวะตั้งครรภ์ (Pregnancy) และให้นมบุตร (Lactation)
ข้อ 6 ภาวะอ้วน (Morbid Obesity) หรือผู้ที่มีน้ำหนักขึ้นลงไม่แน่นอน
อย่างน้อยควรควบคุมน้ำหนักของตนเองให้แน่นอนสัก 3-4 เดือนก่อนผ่าตัด และควรจะควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ลดความเสี่ยงในการผ่าตัดแบบดมยา คือ ควบคุมให้ Body Mass Index (BMI) น้อยกว่า 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร เนื่องจากภาวะอ้วน (Morbid Obesity) มีผลกระทบหลายอย่างต่อการผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ เช่น
- ภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea ; OSA)
- ภาวะความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด
- ภาวะความผิดปกติของต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม เช่น metabolic syndrome
- ภาวะความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร และตับ
- การหายของบาดแผลช้ากว่าปกติ
ข้อ 7 ภาวะความผิดปกติและสุขภาพของจิตใจ
การผ่าตัดในสภาพที่ไม่พร้อมเรื่องสุขภาพจิตใจ มีผลหลายอย่าง เช่น บางครั้งมีความคาดหวังเกินจากความเป็นจริงมากเกินไป บางครั้งไม่ทราบความต้องการของตนเองที่แท้จริง ว่าต้องการจะแก้ไขเรื่องอะไร (True Concern) ไม่ทราบว่าตนเองผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ เพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ เป็นต้น ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของผลการผ่าตัดภายหลังได้ ที่สำคัญความเครียดส่งผลต่อการหายของบาดแผลผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ ทำให้แผลหายช้าลงครับ (Delayed Wound healing Process)
ข้อ 8 การยิงเครื่องมือแพทย์
เช่น เลเซอร์ , Ultrasound , Radiofrequency หรือ High Energy – Based Device ต่างๆ ที่ใช้พลังงานสูงมากในการยิง และมีการทำมาแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี โดยปกติจากประสบการณ์ของทีม ดร.กร หมอแนะนำว่าหากจะพิจารณาผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า ดึงคอได้นั้น ควรทิ้งระยะห่างจากการทำหัตการแรกนั้น 1 ปีนะครับ ส่วนใครที่เคยยิงด้วย Low Energy – Based Device อย่างเช่น HIFU , Laser พลังงานต่ำ อันนี้ควรทิ้งระยะเวลาห่างสัก 3 เดือนหลังทำครับ
ในปัจจุบันมีบริการเสริมสวยบนใบหน้ามากมาย เช่น Botulinum toxin ,ไหมน้ำ ,Filler ,สารเหลว , Fat graft , ร้อยไหม (Thread Lift) ,ฉีด Biostimulators หลากหลายชนิด หมอจึงอยากฝากให้คนไข้แจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ ทราบถึงหัตการที่เคยทำมาก่อนด้วยนะครับ เนื่องจากหัตการเหล่านี้มีผลต่อการพิจารณา การเตรียมตัวและการแก้ไขก่อนการผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอ รวมถึงการพิจารณาเลือกเทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า ดึงคอที่เหมาะสมให้กับคนไข้แต่ละบุคคลนะครับ
มีคำถามเกี่ยวกับ "การผ่าตัดดึงหน้า" อยู่ใช่ไหม?
สำหรับใครที่สนใจดึงหน้าชั้นลึกกับอาจารย์หมอกร อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและประเมินราคาเบื้องต้นด้วยตนเองได้ ที่นี่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาด้านความงามของดร.กร เอสเทติค คลินิก ได้ที่ไลน์ @dr.gornaesthetique มีแพทย์ช่วยประเมินออนไลน์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย!
พร้อมให้บริการแล้วทั้ง 4 สาขา ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร น่าน พิษณุโลก หรืออุตรดิตถ์ ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยตรงที่มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี
บทความโดย Dr.Gorn’s Facial Plastic Teams