fbpx

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

เมื่อพูดถึง “ไขมันใต้ตา” หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูนัก ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ไขมันที่อยู่บริเวณใต้ตานี้คือต้นตอของปัญหาที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างถุงใต้ตานั่นเอง ซึ่งอาจส่งผลให้ดูหน้าแก่กว่าวัย เสียบุคลิกภาพ ดูอ่อนเพลีย จนถึงขาดความมั่นใจได้เล้ว แล้วไขมันบริเวณใต้ตาเกิดจากอะไร รักษาได้ไหม ดร.กร เอสเทติค คลินิก ดร.กร เอสเทติค คลินิก (Dr.Gorn Aesthetique) จะพาคุณไปหาคำตอบ

ไขมันใต้ตาเกิดจากอะไร?

จริง ๆ แล้ว ไขมันบริเวณใต้ตาเป็นองค์ประกอบหลักที่มีอยู่ในเบ้าตาอยู่แล้ว ทำหน้าที่ช่วยรองรับลูกตาและป้องกันลูกตาจากการกระทบกระเทือน เราเรียกไขมันเหล่านี้ว่า “ถุงไขมัน” ซึ่งมีทั้งบริเวณเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง แต่อย่างไรก็ตาม เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ทำให้ถุงไขมันที่หลบอยู่ใต้ผิวหนังถูกดันนูนออกมาจนมองเห็นได้ชัดเจนนั่นเอง

ไขมันบริเวณใต้ตาส่งผลให้เกิดอะไร?

ถุงไขมันบริเวณใต้ตาที่ถูกดันนูนออกมานี้จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “ถุงใต้ตา (Eye bags)” มีลักษณะเป็นผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด หรือทำให้เปลือกตาด้านล่างดูบวม หรือนูน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าแลดูอ่อนล้า ไม่สดใส และแก่กว่าวัย เป็นปัญหาที่สามารถพบได้ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

ไขมันบริเวณใต้ตารักษาได้ไหม?

สามารถรักษาได้ โดยวิธีการรักษาจะขึ้นกับอยู่ขนาดของถุงใต้ตา ดังนี้

ในกรณีที่มีถุงใต้ตาน้อย ไม่เด่นชัดมาก

สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็มกลบใต้ตา เพื่อช่วยให้ถุงใต้ตาดูตื้นขึ้น โดยสารเติมเต็มที่นิยมในปัจจุบันจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ฟิลเลอร์(Filler) และไขมันตัวเอง (Autologous Fat Graft) มีรายละเอียดดังนี้

1.การฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดฟิลเลอร์ในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราวที่มีความปลอดภัยสูง เพราะสามารถสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย อีกทั้งยังเห็นผลลัพธ์หลังฉีดได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น และอยู่ได้นานประมาณ​ 1 – 2 ปี อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์มีราคาค่อนข้างแพง และเป็นสารสังเคราะห์จึงยังมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้อยู่

2.การเติมไขมันหน้า

การเติมไขมันหน้า หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ฉีดไขมันหน้าเด็ก” คือ การดูดไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกายตนเอง เช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก หรือต้นแขน มาปั่นแยกเซลล์ไขมันบริสุทธิ์มาฉีดเติมเต็มรอบ ๆ ถุงใต้ตาให้ดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น มีข้อดีคือ เป็นสารธรรมชาติจากร่างกายของเราเอง จึงไม่ก่อให้เกิดการแพ้ สามารถเติมทั่วหน้าได้โดยไร้ความกังวล และถ้าเกิดติด (Take Graft) จะอยู่ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ผลการฉีดไขมันจะขึ้นอยู่กับการอยู่รอดของเซลล์ไขมัน การดูแลร่างกายของแต่ละบุคคล และเทคนิคทางแพทย์ โดยอาจมีอาการบวมช้ำประมาณ 7-10 วัน

ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์และการเติมไขมันของตัวเอง

กรณีปริมาณถุงใต้ตามาก

ในกรณีที่มีไขมันบริเวณใต้ตาปริมาณมากจนทำให้มีถุงที่ใต้ตามากตามไปด้วย สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเอาไขมันถุงใต้ตาออก (Eye Bags Removal) หรือใช้เทคนิคใหม่อย่างการย้ายถุงไขมันที่ใต้ตาไปกลบบริเวณที่เป็นร่องใต้ตา (Orbital Fat Repositioning) มีรายละเอียดดังนี้

การผ่าตัดถุงไขมันออก (Eye Bags Removal)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกขอบตาล่างโหนกนูนอยู่แล้ว โดยแพทย์จะผ่าตัดไขมันที่ใต้ตาออกเลย ซึ่งโดยปกติแล้ว การผ่าตัดนำไขมันบริเวณใต้ตาออกในวัยหนุ่มสาว หมอจะไม่เปิดแผลภายนอก แต่จะเลือกเปิดแผลด้านในตาแทน ซึ่งจะช่วยให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัดนั่นเอง

การผ่าตัดถุงใต้ตาวิธีที่ 1 การตัดไขมันออก

การย้ายไขมันไปคลุมบริเวณรอยใต้ตาโดยไม่ต้องตัดออก (Orbital Fat Repositioning)

หรือที่นิยมเรียกกันว่า “การจัดเรียงไขมันใต้ตา” วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ขอบตาล่างค่อนข้างบุบ หรือแก้มค่อนข้างโบ๋ โดยแพทย์จะผ่าตัดย้ายไขมันจากถุงใต้ตามาถมบริเวณขอบตาล่าง ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาดูเต็มขึ้น ทำให้ใบหน้าดูสดใสและแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ในเวลาเดียวกัน โดยจะเปิดแผลด้านในตาเหมือนกับวิธีแรก จึงทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัดเช่นกัน

การผ่าตัดถุงใต้ตาวิธีที่ 2 การย้ายไขมัน
ไขมันใต้ตาเกิดจากอะไร ต้องรักษาอย่างไร?

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไขมันที่อยู่ใต้ตา

ในบางครั้ง หนุ่ม ๆ สาว ๆ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ตนเองมีไขมันบริเวณใต้ตามากจนทำให้เกิดถุงใต้แต่ แต่จริง ๆ แล้ว ถุงใต้ตาเหล่านี้เป็นเพียงถุงใต้ตาเทียมเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การนอนดึกมาก อาการภูมิแพ้เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก หรือชอบขยี้ตาเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดบริเวณถุงใต้ตาขยายตัวขึ้น ทำให้มองเห็นเหมือนเป็นถุงใต้ตาเอง ถ้าหากเราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม และรักษาสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดบริเวณถุงใต้ตาขยายตัว ก็จะช่วยให้ลดถุงใต้ตาที่เรามองเห็นนี้ให้ดีขึ้นได้นั่นเอง

รวมรีวิวแก้ไขปัญหาไขมันบริเวณใต้ตา ต้นเหตุถุงใต้ตาบวม

การจัดเรียงไขมันใต้ตาอยู่ได้นานไหม?

ผลลัพธ์ของการผ่าตัดถุงไขมันออก การผ่าตัดย้ายไขมัน รวมถึงการจัดเรียงไขมันบริเวณใต้ตาใหม่ จะขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของแต่ละคน โดยปกติแล้วจะสามารถอยู่ได้นานหลายสิบปี แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ความกระชับของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบ ๆ ดวงตาก็อาจเสื่อมลง และทำให้กลับมามีถุงใต้ตาได้ใหม่เช่นกัน

สรุปเรื่องไขมันใต้ตา

ไขมันบริเวณใต้ตา เป็นสิ่งที่มีอยู่ในเบ้าตาของคนเราอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณรอบดวงตาที่คอยพยุงไขมันในเบ้าตาไว้จะเสื่อมลง ทำให้ถูกดันนูนออกมาจนมองเห็นเป็นถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือเปลือกใต้ตาบวม ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็มให้ดูตื้นขึ้น ผ่าตัดนำไขมันที่ใต้ตาออก หรือจัดเรียงไขมันใต้ตาใหม่ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าตนเองเหมาะสมกับวิธีการรักษาแบบใด แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาไขมันบริเวณใต้ตาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

มีคำถามเกี่ยวกับไขมันใต้ตาอยู่ใช่ไหม?

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดเรียงไขมันบริเวณใต้ตา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาด้านความงามของดร.กร เอสเทติค คลินิก ได้ที่ไลน์ @dr.gornaesthetique มีแพทย์ช่วยประเมินออนไลน์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย! พร้อมให้บริการทั้ง 3 สาขา ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร น่าน หรือพิษณุโลก ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยตรงที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี