เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

1.ลักษณะซิลิโคนคางผู้ชายแตกต่างจากคางผู้หญิงมั้ย

ลักษณะซิลิโคนจะแตกต่างกันพอสมควร แม้ว่าจุดประสงค์การเสริมคางของทั้งคู่เพื่อให้คางดูยาวสมสวรกับใบหน้า แต่ในเคสผู้หญิงจะสนใจเรื่องความเรียวและยกกระชับเหนียงใต้คางด้วย ในส่วนการเสริมคางผู้ชายจะเน้นความยาว ไม่เน้นความเรียว 

ลักษณะซิลิโคนที่แพทย์ผู้ผ่าตัดที่มีประสบการณ์จะปรับขนาดสัดส่วนซิลิโคนให้เพิ่มความยาวคางไปพร้อมกับคงขนาดความกว้างของคางเดิมไว้ในทางตรงกันข้ามในเคสผู้หญิงแพทย์ผู้ผ่าตัดจะเหลาปรับลักษณะซิลิโคนให้เน้นเพิ่มความยาวเป็นหลัก และลดความกว้างของคางร่วมด้วย 

ดั้งนั้นแล้วในเคสผู้หญิงที่มีความกว้างของกระดูกคางค่อนข้างมาก อาจไม่เหมาะสมแก้ไขรูปทรงคางด้วยเทคนิคซิลิโคน ควรแก้ไขโดยการผ่าตัดปรับกระดูกปลายคางโดยตรง

ลักษณะซิลิโคน เคสคางผู้ชาย

6 ข้อต้องรู้ ก่อนคิดจะเสริมคางด้วยซิลิโคน

ลักษณะซิลิโคน เคสคางผู้หญิง

6 ข้อต้องรู้ ก่อนคิดจะเสริมคางด้วยซิลิโคน

2.ซิลิโคนคางวางอยู่ชั้นไหนของเนื้อเยื่อปลายคาง

การวางซิลิโคนคางที่เหมาะสมควรอยู่ใต้เยื่อหุ้มกระดูก เพื่อให้การวางซิลิโคนค่อนข้างแน่นมั่นคง จึงไม่จำเป็นต้องขันสกูรยึดซิลิโคนกับกระดูกปลายคาง ยกเว้นในเคสแก้ที่เยื่อหุ้มกระดูกเสียหายอย่างมาก แตกต่างในเคสที่เสริมคางด้วยฟิลเลอร์(Filler) หรือฉีดไขมันคาง(Autologous fat graft transfer) ที่สามารถเติมได้หลากหลายชั้นตามแต่ละปัญหาแต่ละเคส

3.เสริมคางแล้วใบหน้าจะเรียวขึ้นไหม

โดยทั่วไปแล้วการเสริมคางจะทำให้ใบหน้าดูยาวและเรียวขึ้น แต่ทั้งนี้การที่ใบหน้าเราไม่ดูเรียววีเชฟ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ควรฉีดสารโบทูลินั่ม ท๊อกซิน กระดูกขาไกรกรรกว้าง ควรผ่าตัดปรับความกว้างขากรรไกรล่าง ใบหน้าบริเวณแก้มหย่อนคล้อยควรร้อยไหม ทำ HIFU เติมไขมันยกกระชับ หรือหากเป็นมากอาจต้องผ่าตัดดึงหน้า  จะเห็นว่าการเสริมคางเป็นเพียงการปรับรูปทรงบริเวณคางเท่านั้น ยังมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องปรับแก้เพิ่มเติมอีก  หากคนไข้ไม่ได้มีปัญหาเพียงเรื่องคางที่ตัดและสั้นจนใบหน้าดูไม่เรียว ดั้งนั้นคนไข้ควรปรึกษาแพทย์ผู้ผ่าตัดโดยตรง เพื่อประเมินการปรับรูปหน้าวีเชฟครับ

6 ข้อต้องรู้ ก่อนคิดจะเสริมคางด้วยซิลิโคน

4.ซิลิโคนคางในท้องตลาดมีหลากหลายชื่อมาก แล้วเราจะเลือกอย่างไรดี

ก่อนอื่นเลยหมอต้องบอกว่าซิลิโคนชื่อต่างๆนั้น เป็นเพียงชื่อทางการตลาดที่แต่ละคลินิคตั้งขึ้น บางครั้งรูปทรงเดียวกัน อาจคนชื่อได้ ดังนั้นการเลือกซิลิโคนคางจริงๆแล้ว เราไม่ควรเลือกจากชื่อ แต่เราควรเลือกจากลักษณะคางของเรา และเป้าหมายรูปทรงคางใหม่ที่เราต้องการ เช่น ในเคสคางผู้ชาย เราควรเลือกลักษณะซิลิโคนที่เพิ่มความยาวคางได้และยังคงขนาดความกว้างคางได้ใกล้เคียงเดิม เพื่อให้คางดูยาวขึ้น และยังดูรับกับความกว้างของกระดูกขากรรไกร เป็นต้น จะเห็นได้ว่าชื่อซิลิโคนไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการเสริมคาง เนื่องจากแพทย์ผู็มีประสบการณ์ต้องเหลาปรับซิลิโคนคางแบบสามมิติ ให้เหมาะสมกับลักษณะคางของเรา แต่สิ่งสำคัญเสมอ คือ เราต้องเลือกซิลิโคนที่เป็นเกรดางการแพทย์(medical grade) จึงจะสามารถใช้กับร่างกายเราได้อย่างปลอดภัยครับ

5.เราจะเลือกซิลิโคนคางขายาวหรือขาสั้นดี

การเลือกความยาวของขาซิลิโคนจะขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การเสริมคาง โดยดูเราจะเลือกความยาวของขาซิลิโคนที่เหมาะสมกับความกว้างของกระดูกคาง ร่วมกับประเมินความหนาของเนื้อเยื่ออ่อนปลายคาง(Chin pad) เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูธรรมชาติ ไม่เห็นรอยต่อระหว่างซิลิโคน กระดูกคาง และเนื้อเยื่ออ่อนปลายคาง ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่ายิ่งซิลิโคนขายาว ยิ่งเสริมแล้วคางดูเรียว ในความเป็นจริงความยาวขาซิลิโคนที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ดูธรรมชาติ ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์ผู้ผ่าตัด

6.เสริมคางจะเลือกเทคนิคแผลนอกหรือแผลในดี

โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดเสริมคางแผลด้านนอกจะให้ข้อดีในแง่รูปทรงและการวางตำแหน่งซิลิโคนที่แม่นยำกว่า อาการบวมหลังผ่าตัดที่น้อยกว่า อัตราการติดเชื้อที่น้อยกว่า และการดูแลหลังผ่าตัดที่ทำได้ง่ายกว่า แต่คนไข้ส่วนใหญ่มีความกังวลเรื่องการมองเห็นแผลผ่าตัดแตกต่างจากแผลในที่สามารถซ่อนแผลได้ แต่ในความเป็นจริงแผลผ่าตัดคางด้านนอกมีขนาดเล็ก และเห็นเป็นเพียงเส้นจางๆ มองหน้าตรงไม่เห็นแผลที่ซ่อนอยู่ใต้คาง นอกจากนี้แพทย์ผู้ผ่าตัดจะทำการเย็บแผลหลายชั้นและปิดแผลชั้นนอกด้วยไหมขนาดเล็กมาก จึงช่วยลดโอกาสเกิดรอยไหมเย็บและขอบแผลนูนได้ (อ่านเพิ่มเติมการเสริมคางแผลด้านนอก vs การเสริมคางแผลด้านใน )