fbpx

เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ถุงใต้ตาบวม เป็นปัญหากวนใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้สูญเสียความมั่นใจ หรือส่งผลกระทบต่อความสวยงามได้ สำหรับใครที่มีปัญหานี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะดร.กร เอสเทติค คลินิก (Dr.Gorn Aesthetique) ได้รวบรวมวิธีลดถุงใต้ตามาไว้ที่นี่แล้ว ทั้งการแก้ถุงใต้ตาด้วยตนเอง และทางการแพทย์!

รวมวิธีลดถุงใต้ตา ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

ถุงใต้ตา คือ?

ถุงใต้ตา (Eye bags) คือ ถุงไขมันบริเวณเปลือกตาล่างที่มีอาการบวม หรือนูนออกมาจนเห็นได้ชัด ทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ใบหน้าแลดูอ่อนล้า ไม่สดใส และแก่กว่าวัย โดยถุงใต้ตา สามารถพบได้ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร?

รวมวิธีลดถุงใต้ตา ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ถุงใต้ตาเทียม และถุงใต้ตาแท้ ซึ่งเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน จึงทำให้มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันตามไปด้วย ดังนี้

1. ถุงใต้ตาเทียม

ถุงใต้ตาเทียม เกิดจาก 3 สาเหตุหลัก ๆ คือ

  • ความผิดปกติของระบบการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง ทำให้เกิดการสะสมของไขมันและของเหลวบริเวณผิวหนังใต้ตาจนบวม หรือนูนออกมา
  • พฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การขยี้ตา การร้องไห้ พักผ่อนไม่เพียงพอ ใช้สายตามากเกินไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ชอบรับประทานอาหารรสเค็มจัด
  • อาการแพ้สารต่าง ๆ ทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ หรือบวมบริเวณใต้ตา


ถุงใต้ตาเทียมเป็นอาการชั่วคราวที่สามารถรักษาได้ด้วยตนเอง โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด หมั่นประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้

2. ถุงใต้ตาแท้

ถุงใต้ตาแท้เกิดจาก 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ 

  • เกิดจากกรรมพันธุ์ หรือระบบต่อมไร้ท่อภายในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้ไขมันและของเหลวต่าง ๆ ไหลมารวมกันบริเวณใต้ตามากเกินไปจนทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาดูนูนออกมา มีลักษณะเป็นถุงป่องนูนบริเวณใต้ตา
  • เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังของคนเรานั้นจะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ทำให้เนื้อเยื่อที่รองรับถุงไขมันใต้ตาอ่อนแรงและหย่อนตัวลงมา ซึ่งจะหย่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น โดยจะมีลักษณะเป็นถุงใต้ตาหย่อนคล้อย

สามารถลดถุงใต้ตาด้วยตนเองได้ไหม?

ถุงบริเวณใต้ตาที่สามารถรักษาได้ด้วยตนเองก็คือ “ถุงใต้ตาเทียม” ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว จะเกิดจากการมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ขยี้ตาบ่อย ๆ หรือใช้สายตาหนักเป็นประจำ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม และดูแลบำรุงรอบดวงตาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการของถุงใต้ตาเทียมดีขึ้นได้ ดังนี้

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เช่น หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ประคบดวงตาด้วยแตงกวา ถุงใบชา หรือสำลีชุบน้ำเกลือ 5 – 10 นาที เป็นประจำทุกวัน
  • ทาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์
  • นวดลดถุงใต้ตาบวม โดยการทาครีมบำรุงรอบดวงตา แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนางแตะบริเวณกลางใต้ตา แล้วลาดออกไปทางหางตาและหัวตาอย่างเบามือ 5 – 10 ครั้ง จะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และลดขนาดของถุงใต้ตาเทียมลงได้

6 วิธีลดถุงใต้ตาด้วยตัวเอง จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ

รวมวิธีลดถุงใต้ตา ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

สำหรับใครที่มีถุงใต้ตาบวม แต่ไม่อยากไปพบคุณหมอ เรามี 6 สูตรบำรุงผิวรอบดวงตาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย มีราคาไม่แพง รับรองว่าจะช่วยให้ถุงบริเวณใต้ตามีอาการที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

  1. แตงกวา นำแตงกวามาแช่เย็น ล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแว่น แล้วแปะที่ดวงตา ทิ้งไว้ 25 นาที ฤทธิ์เย็นของแตงกวาจะช่วยลดการอักเสบและลดการบวมได้ แถมดวงตายังสดใสเป็นประกายด้วย
  2. เกลือ ใช้เกลือครึ่งช้อนโต๊ะผสมละลายกับน้ำอุ่น จากนั้นนำสำลีแผ่นกลมชุบแปะที่ดวงตาทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยลดการบวมและอักเสบ ฟื้นฟูระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอยรอบดวงตาได้
  3. นมจืด นำนมจืดแช่เย็นชุบด้วยสำลีแผ่นกลม แปะที่ดวงตาทิ้งไว้นาน 20 นาที วิธีนี้จะดีมากต่อปัญหาการคั่งน้ำบริเวณดวงตาที่เป็นสาเหตุของการบวม ทำให้ถุงใต้ตายุบลงอย่างเห็นได้ชัด แถมบำรุงผิวรอบดวงตาให้นุ่มชุ่มชื่นอีกด้วย
  4. ไข่ขาว นำไข่ขาวมาทาบริเวณใต้ตาที่บวม จากนั้นให้ทิ้งไว้ 20 นาทีจนไข่ขาวแห้งตึง วิธีนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตากระชับขึ้นและทำให้ถุงใต้ตายุบลงได้อย่างรวดเร็วทันใจ
  5. ถุงชาแช่เย็น ก็สามารถลดถุงใต้ตาได้ โดยให้นำถุงชามาจุ่มในน้ำเย็นอีกครั้ง แล้วแปะที่ดวงตาทิ้งไว้ 25 นาที จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณรอบดวงตาเป็นปกติและช่วยลดความบวมลงได้ ถุงใต้ตาก็จะค่อยๆ หายไป
  6. มันฝรั่งดิบ หลายคนอาจสงสัยว่ามันฝรั่งช่วยได้จริงเหรอ เพราะไม่รู้ว่ามันฝรั่งอุดมไปด้วยสตาร์ช น้ำ และวิตามินเค วิตามินซีและวิตามินบี ซึ่งมีส่วนช่วยให้ถุงใต้ตายุบลง ลดการบวมได้เป็นอย่างดี วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพียงนำมันฝรั่งดิบมาล้างให้สะอาด ฝานออกมาเป็นแว่น จากนั้นก็นำไปแปะที่ตาไว้ 20 นาทีเท่านี้ก็เรียบร้อย

วิธีลดถุงใต้ตาทางการแพทย์

สำหรับ “ถุงใต้ตาแท้” การรักษาด้วยตนเองอาจไม่ช่วยให้อาการดีขึ้น อย่างไรก็ตาม มีวิธีรักษาลดถุงใต้ตาทางการแพทย์หลายวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจากกรรมพันธ์ุ หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นให้ดีขึ้นได้ ดังนี้

1. การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา

การผ่าตัดศัลยกรรมถุงใต้ตา เป็นวิธีรักษาถุงใต้ตาแท้ที่ดีที่สุด และให้ผลลัพธ์ที่ถาวร เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ถุงไขมันใต้ตาเยอะ หรือถุงใต้ตาป่องนูนมาก ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่น ๆ โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาถุงไขมันใต้ตาและหนังตาส่วนเกินออก หรือเอาออกเฉพาะไขมัน แล้วเย็บปิดแผลให้สวยงาม

2. การฉีดสารเติมเต็ม (Camouflage Filling)

แพทย์จะทำการฉีดสารเติมเต็มบริเวณรอบ ๆ ถุงใต้ตา เพื่อให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูเต็มขึ้น เรียบเนียนขึ้น ช่วยลดขนาดของถุงบริเวณใต้ตาได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

  • การฉีดฟิลเลอร์กลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid: HA) มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี
  • การฉีดไขมันของตนเอง หรือที่เรียกว่า “ฉีดไขมันหน้าเด็ก” มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการแพ้น้อย และมีโอกาสที่เซลล์ไขมันจะปลูกถ่ายติดและอยู่ได้ตลอดชีวิต

3. การดูดไขมัน

การดูดไขมันถุงใต้ตา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดขนาดถุงใต้ตาได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตานูนออกมามาก แต่ไม่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเปิดในเปลือกตา แล้วดูดไขมันออกมาในปริมาณที่เหมาะสม

4. การใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency: RF)

คลื่นความถี่วิทยุ หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “RF” เป็นหนึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถช่วยสลายไขมันและเซลลูไลต์ใต้ชั้นผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวกระชับและริ้วรอยแลดูตื้นขึ้นได้ โดยสามารถนำมาใช้ลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้เล็กน้อย ตัวอย่างเครื่องคลื่นความถี่วิทยุที่รู้จักกันดี เช่น Thermage, Thermage CPT และ Thermage FLX

5. การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound)

คลื่นอัลตราซาวด์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีกระชับผิวที่ได้รับความนิยมทั่วโลก สามารถกระตุ้นให้ผิวหนังชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดยกกระชับผิวเกิดการหดตัวและยกกระชับขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลดไขมันบริเวณถุงใต้ตาได้บางส่วนเหมือนกับการรักษาถุงใต้ตาด้วยคลื่นความถี่วิทยุด้วย ตัวอย่างเครื่องคลื่นอัลตราซาวด์ที่รู้จักกันดี เช่น Ulthera หรือ HIFU Ultraformer III เป็นต้น

การรักษาโดยแพทย์

รวมวิธีลดถุงใต้ตา ทั้งแบบธรรมชาติและทางการแพทย์

สำหรับอาการถุงใต้ตาบวมแบบนี้ ใครที่ต้องการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนเราก็ขอแนะนำให้ลองไปปรึกษาคุณหมอดูค่ะ โดยวิธีกำจัดถุงใต้ตาทางการแพทย์นั้นทำได้หลายวิธี คือ

  • ทำทรีตเมนต์ เพื่อยกกระชับผิวรอบดวงตา ได้ผลดีกับคนที่มีถุงใต้ตาบวมรวมไปถึงคนที่เริ่มมีริ้วรอยบริเวณดวงตาค่ะ
  • ศัลยกรรม คือ ผ่าตัดเอาถุงใต้ตาออกอย่างถาวร เพื่อให้ถุงใต้ตานั้นหายไป และอาจจะเติมเต็มให้ดูสดใสด้วยไขมันตัวเองเข้าไปแทนที่ โดยใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-7 วันค่ะ

รวมรีวิวแก้ไขตาล่างและถุงใต้ตา ที่ ดร.กร เอสเทติค คลินิก

สรุปเรื่องการลดถุงใต้ตา

ถุงบริเวณใต้ตาเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก เพื่อดูแลบริเวณผิวรอบดวงตาให้สวยงามเปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ แนะนำให้ดูแลผิวบริเวณรอบดวงตาด้วย 6 สูตรบำรุงผิวรอบดวงตาที่เรานำมาฝาก ร่วมกับการปรับพฤติกรรมให้เหมาะสม แต่ถ้าหากถุงใต้ตาไม่มีอาการดีขึ้น การเข้าพบแพทย์เพื่อทรีตเมนต์รอบดวงตา หรือทำศัลยกรรมดวงตาก็จะช่วยให้แก้ปัญหาถุงใต้ตาให้ดีขึ้นได้

มีคำถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยอยู่ใช่ไหม?

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาด้านความงามของดร.กร เอสเทติค คลินิก ได้ที่ไลน์ @dr.gornaesthetique มีแพทย์ช่วยประเมินออนไลน์ได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย! พร้อมให้บริการทั้ง 3 สาขา ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานคร น่าน หรือพิษณุโลก ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าโดยตรงที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี