การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจากการพัฒนาการของ Technology ที่เร็วกว่ามนุษยชาติ อาทิเช่น Digital Transformation , Internet Of Thing , Artificial Intelligence และอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ กำลังจะเปลี่ยนแปลง (Disrupt) ทุกมิติของการใช้ชีวิตบนโลกของเราในปัจจุบันและอนาคต (Next Disruption) Covid-19 เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้ให้เร็วขึ้นอย่างที่หลายคนไม่ทันตั้งตัว
ศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery)
- ทำให้คนเรามีความสุขและหายเครียด เวลาเราหล่อ หรือ สวยขึ้น และอ่อนวัยลงอย่างเห็นได้ชัด บางคนถือว่า“เป็นรางวัลชีวิต (Reward) ” หลังจากการทำงานอย่างหนัก
- ทำให้หลายคนมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้นจนสามารถเพิ่มศักยภาพในอาชีพการงานของตนเอง แล้วทำให้ตนเองมีรายได้ที่สูงขึ้น
- ช่วยแก้ไขความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจหลายอย่าง จึงช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของบางคนที่มีปัญหาดังกล่าวดีขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น
- บางคนมีหนังตาบนเกิน และหย่อนคล้อย (Dermatochalasis) ทำให้แลดูเป็นคนเศร้าหมอง ขณะเดียวกันก็บังลานสายตาด้วย ทำให้การมองเห็นน้อยลง จนทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเวลาเดินขึ้นลงบันได
- บางคนมีภาวะกล้ามเยื่อยกหนังตาอ่อนแรง (Ptosis) ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากตนเองหดตัวเกร็งเป็นเวลานาน บ่อย ๆ ซ้ำ ๆ จนทำให้เกิดรอยย่นหน้าผาก และปวดศีรษะเรื้อรังได้ (Chronic Headache)
- บางคนจมูกคด (Deviated Nose) ปลายจมูกงุ้ม (External Valve Collapse) จนทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบาก และส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจจากภาวะออกซิเจนต่ำ (Chronic Hypoxia) ในระยะยาวได้
- มาตรฐานทางการแพทย์ (Know How) ที่ยกระดับสูงขึ้น ทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Science) และความชำนาญของแพทย์ที่สูงขึ้น (Surgical Skills) ทำให้ผลของการทำศัลยกรรมดีขึ้น ภาวะแทรกซ้อนน้อยลง และมีความปลอดภัยสูงขึ้นนั้นเอง
ยกเว้น : การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานทางการแพทย์ (Malpractice) ที่ปรากฎมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เช่น หมอกระเป๋าตามสถานบริการต่าง ๆ - ศัลยกรรมความงาม ถือว่าเป็นบริการอย่างหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากมีส่วนช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และที่สำคัญศัลยกรรมความงามเป็นบริการที่ทางการแพทย์แขนงหนึ่ง ที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในประเทศไทยอย่างแท้จริง
หลังจากการเกิดวิกฤต Covid-19 ทุกคนปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นบนโลกใบนี้เสมอ ทุกคนต้องออมบางส่วนเพื่อใช้จ่ายในภาวะฉุกเฉิน ทุกคนต้องขยันและมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต (Prepare for the next Disruption) ส่วนศัลยกรรมความงามจะเดินต่อไปอย่างไร พัฒนาต่ออย่างไรในยุค New Normal นี้ ต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คงไม่หยุดอยู่ที่จุดเดิมอย่างแน่นอน
การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดจากการพัฒนาการของ Technology ที่เร็วกว่ามนุษยชาติ อาทิเช่น Digital Transformation , Internet Of Thing , Artificial Intelligence และอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ กำลังจะเปลี่ยนแปลง (Disrupt) ทุกมิติของการใช้ชีวิตบนโลกของเราในปัจจุบันและอนาคต (Next Disruption) Covid-19 เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้ให้เร็วขึ้นอย่างที่หลายคนไม่ทันตั้งตัว
สำหรับคนที่วางแผนหรือคิดจะทำศัลยกรรมความงามคงจะต้องเปลี่ยนแนวความคิดใหม่ด้วยเช่นกัน ควรจะพิจารณาและตัดสินใจอย่างไรดี ? หมอกร มีแง่คิดและคำแนะนำดีดีดังนี้ครับ
- ไม่ทำศัลยกรรมตามกระแส
ไม่ควรทำศัลยกรรมความงามตามกระแสของ Social Media ที่ส่วนใหญ่จะมีความเกินจริงและเกินคำว่า “พอดี”เพราะในความเป็นจริง เราไม่สามารถทำศัลยกรรมเลียนแบบคนอื่นได้ 100% เนื่องจาก พื้นฐานโครงหน้าเดิมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน - ควรจะคำนึงถึงทั้งข้อดีและข้อเสีย(Pros & Cons)
เราไม่ควรจะคำนึงถึงผลที่ได้รับทันทีหรือทันตาอย่างเดียว แต่ควรจะไตร่ตรองถึงผลที่ตามมาในระยะยาวด้วย แต่อาจจะยากสักนิดหนึ่งในยุคที่มีข้อมูลข่าวสาร Overload เช่นนี้ ดังนั้น ทางเลือกที่ดีคือปรึกษาแพทย์ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ โดยตรงก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม - ศัลยกรรมเพื่อปรับปรุง / เปลี่ยนแปลง / แก้ไข แต่ไม่เสพติด
เราควรทำศัลยกรรมความงามเพื่อปรับปรุง เปลี่ยนแปลงในส่วนที่บกพร่องให้บุคลิกภาพของเราดีขึ้น ไม่ควรเสพติดศัลยกรรม ไม่ทำศัลยกรรมจนสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง โดยเลือกวิธี / เทคนิคการผ่าตัดตามงบประมาณค่าใช่จ่าย ความพร้อม และธรรมชาติโครงหน้าของเราเอง - การพลิกโฉมของตัวเองทั้งหมดเป็นสิ่งไม่จำเป็น
ไม่ควรที่จะผ่าตัดปรับโครงสร้างหน้าทั้งหมด (Facial Framework) เพื่อเปลี่ยนโฉมตัวเองโดยไม่จำเป็นเนื่องจากทุกคนเกิดมามีความงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Identity) อยู่แล้ว การแก้ไขหรือเสริมเติมแต่งเฉพาะจุดก็สามารถทำให้เราดูดีขึ้นได้ แถมมีความเสี่ยงน้อยลง และลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย ยกเว้นบางคนที่มีความพร้อมและมีความจำเป็นในการแก้ไขจริง ๆ เช่น คนที่มีความพิการแต่กำเนิดหรือภายหลังจากอุบัติเหตุ แล้วมีใบหน้าและขากรรไกรที่ผิดรูป จนมีผลกระทบต่อทั้งสุขภาพทางร่างกายและจิตใจ เป็นต้น - ความสวย ความหล่อที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่หน้าตาเพียงอย่างเดียว
เพราะความสวย ความหล่อที่จับต้องได้และมีเสน่ห์ที่แท้จริงนั้น เราไม่ได้วัดกันที่หน้าตาเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญเหมือนกัน ได้แก่ บุคลิกภาพที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความเชื่อมั่นในตัวเอง การพูดจาที่น่าฟัง การวางตัวและมารยาททางสังคมที่เหมาะสม ตลอดจนความคิดเชิงบวก (Positive Thinking) ต่อสังคมและคนรอบข้าง
สุดท้ายนี้ เหรียญจะมี 2 ด้านเสมอ อยู่ที่เราจะรับผลทั้ง 2 ด้านนั้นได้หรือไม่ เหมือน New Normal หรือ Disruptor ที่เกิดมากขึ้นเรื่อย ๆ บนโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นเราคงต้องตัดสินทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความจริง ถูกต้อง และปลอดภัย ที่สำคัญคำนึงถึงกำลังทรัพย์ของตนเองด้วยครับ